วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

King Rama 5

เนื่องในวันปิยะมหาราช มหาราชของปวงชนชาวไทยทุกคน

            Thai Arts

พระคาถาบูชาพระพุทธเจ้าหลวง แบบย่อ

"พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง
พุทโธ นะโม พุทธายะ"
หรือแบบเต็ม "นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
อิติปิโส วิเสเส อิอิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโส อิอิโสตัง พุทธะปิติอิ
พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง
พุทโธ นะโม พุทธายะ มาสีสะมานัง"

วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Art-Dead-02

       ความจริงบทความนี้เป็นเนื้อหาเดียวกันกับ Art-Dead-01 แต่ผมแยกเนื้อหาและรูปภาพกับบทความแรกเพื่อความเหมาะสมนะครับ ต่อกันเลยนะครับ อีกไม่กี่วันก็ใกล้ถึงวัน ฮาโลวีน( วันที่สถานบันเทิงกลางคืนในประเทศไทยมักจะมีการประกวดผีสาวเซ็กซี่) ซึ่งเป็นวัฒนธรรม-ประเพณี ทางฝรั่งเขา  ถือว่าวันฮาโลวีนนี้เป็นวันดี เหมาะสำหรับจัดงานแต่งงาน การทำนายโชคชะตา หรือแม้แต่เรื่องความตายยังถือว่า วันนี้เป็นเพียงวันเดียวที่ภูติผีวิญญาณจะช่วยดลบันดาลให้สิ่งที่คนเป็นต้องการสามารถเป็นไปตามใจปรารถนา ประมาณเที่ยงคืนของวันฮาโลวีนสาวอังกฤษจะออกมาหว่าน และไถกลบเมล็ดป่าน พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน และท่องคาถาร้องขอให้มองเห็นภาพของว่าที่คู่ชีวิตของตนในอนาคต เมื่อสาวเจ้าเหลียวมองผ่านบ่าด้านซ้ายก็จะได้เห็นภาพนิมิตของผู้ที่จะมาเป็นสามีของตนในอนาคต   อีกประเพณีหนึ่งของชาวอังกฤษ คือ การหย่อนเหรียญ 6 เพนนีลลงในอ่างน้ำ พร้อมแอปเปิ้ล ผู้ใดสามารถแยกแยะของสองสิ่งนี้ออกจากกันได้โดย ใช้ปากคาบเหรียญ และใช้ส้อมจิ้มแอปเปิ้ลให้ติดได้ในครั้งเดียว ผู้นั้นจะมีโชคดีตลอดปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือน (ข้อมูลจาก Sanook.com)

       อย่างที่บอกครับ บทความนี้กล่าวถึง ศิลปกับความตาย โดยมองผ่านสัญลักษณ์อย่างหนึ่งคือหัวกระโหลก ครับ ผมกำลังจะกล่าวถึงคนกลุ่มหนึ่งที่มีมุมของ ศิลปกับความตาย เช่นกันแต่ได้เพิ่มอีกอย่างลงไป คือร่างกายของพวกเขา ใช่ครับพวกเขาสัก ศิลป-ความตายตามรสนิยมของเขาลงในร่างกายของเขา (ถ้ามองดีๆน่าจะให้ข้อคิดเยี่ยมๆได้เลยครับ)

Tattoo-art-dead
    
       ในวันฮาโลวีนนี้คิดว่าพวกเขาคงออกไปร่วมงานแต่ไม่ต้องตกใจนะครับ ไปทำความคุ้นเคยกับพวกเขาก่อน เข้าไปที่ google แล้วพิมพ์คำว่า weird tattoo ข้อมูลพวกเขาจะออกมาให้ท่านๆ ชมความงามของศิลปตามรสนิยมของเขาครับ ส่วนอีกอันหนึ่งที่ผมนำมาฝากคือ ไอเดียเยี่ยมๆของธุรกิจที่ขายเครื่องมือทางการแพทย์ เขาสามารถสื่อให้เห็นถึงศักยภาพ-ความสามารถของตัวสินค้าที่เขาขายอยู่

calendar-art-dead

       ครับเขานำนางแบบมาโพสท์ท่าทางเ ซ็กซี่แล้ว x-ray ครับแล้วพิมพ์เป็นปฏิทินให้ลูกค้าเขา ถ้าจะตั้งฉายาของงานชุดนี้ผมขอเสนอให้ชื่อว่า สุดยอดปฏิทิน xxx นะครับแล้วผมจะนำ url ของที่นี่มาลงให้ เผื่อมีคนสนใจเพิ่มเติม อีก 2 รูปสุดท้ายของศิลป-ความตาย(ผ่านหัวกระโหลก) แต่สามารถสื่อทั้ง 2 อย่างแล้วเป็นสินค้าขายทางอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วยครับ

                                 

    ก็หวังว่า บทความชุดนี้ คงสะท้อนแง่มุมที่ทุกคนไม่ค่อยจะนึกถึงได้นะครับ Art and Dead-ขอบคุณครับ

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Art-Dead-01

           บางทีนะครับ คนเราก็พยายามลืมความจริงประโยคหนึ่ง คือ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย  หรือ ยอมรับบางข้อ คือ เกิดมาแล้ว แต่ฉันไม่อยากแก่ ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากตาย  แต่การเกิด-การแก่-การเจ็บ-การตาย  นั่นแหละครับคือ สิ่งที่จะเกิด กับทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่าง ทุกๆการกระทำในโลกนี้ ไม่ว่าในวงการไหน หนีประโยคนี้ไม่พ้นครับ ก็จะขอหยิบมุมมองของความตายที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งคือ หัวกระโหลกครับ คือถ้าใครเห็นหัวกระโหลก คงไม่คิดว่าเจ้าของกระโหลกนี้ มีชีวิตสุขสบายดีหรือเปล่านะครับ แน่นอนครับ ตายแน่นอน แต่ในทางศิลปได้หยิบยกความจริงข้อนี้(ความตาย) มาสื่อให้ผู้คนได้เห็นและยอมรับว่ายังมีความตายอยู่รายรอบตัว-ในชีวิตประจำวัน แล้วแฝงคติธรรม ความเชื่อทางศาสนา ลงไปในงานนั้น โดยเฉพาะศาสนาคริสท์ ที่ผู้คนต้องไปโบถส์ ทุกสัปดาห์ ต้องเห็นงานศิลปประเภทนี้ในชีวิตประจำวันของเขาแน่นอน อย่างรูปที่ผมลงก็ ถ่ายจากโบถส์หนึ่งในอังกฤษเป็นงานสลักหินครับ(ไม่ใช่ถอดพิมพ์ยางแล้วเทเรซิ่น)    


                                                       
           ส่วนศานาอื่นๆก็มีครับแทบทุกศาสนา  อย่างรูปถัดมา  ก็เป็นหัวกระโหลกที่ประดับบนองค์พระพิฆเนศ (Lord Ganesha) ซึ่งศิลปแนวนี้มักพบมากแถบอินโดนืเซีย (ใครมีข้อมูลเพิ่ม ช่วยเขียนลงใน comment ใต้บทความเลยนะครับ-ยินดีครับ)
                                                                                                     
  
vinayak-vanich
                                                 
           ส่วนรูปนี้ก็เป็นแม่กาลี(Kali Ma) รูปนื้เป็นงานสลักหินที่วัดแห่งหนึ่งในประเทศ เนปาลเป็นปางที่ช่วงบนขององค์ท่านเหมือนปางอื่นทุกประการ จะต่างกันที่ท่านั่งที่นั่งชันเข่า  บางที่ก็เรียกนามท่านว่า Nar Devi  และเช่นเคยครับ สร้อยที่ท่านสวมอยู่ก็เป็นศรีษะของมารที่ท่านปราบ(บ้างก็เป็นหัวกระโหลก) (ภาพของเดิมสีซีดมากตกแต่งใหม่โดย vinayak-vanich)


vinayak-vanich

           ต่อด้วยงานแบบไทย ภาพด้านซ้ายคือท่านพระยายม ซึ่งท่านถือไม้เท้าหัวกระโหลกตามคติความเชือ และภาพต่อไปเป็นท่านท้าวเวสสุวรรณ ถือไม้เท้าหัวกระโหลกเช่นกัน (ภาพนี้ผลงานของคุณ boy เข้าไปใน facebook นะครับแล้วพิมพ์คำว่า tadatada แล้วจะพบคุณบอยที่นั่น)





           จะเห็นนะครับว่า ไม่ว่าศาสนาไหนมักจะแฝงคติหรือความจริงเรื่องความตายผ่านทางศิลปเพื่อสื่อให้ผู้ที่ชมงานเหล่านั้นให้รู้สึกได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับผมแล้วผมแค่รู้สึกว่าเวลาที่เรามีอยู่ในโลกนี้น้อยจัง มีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำเลยครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เก็บตก Links

       วันนี้ผมขอมาเก็บตก links ที่ผมขึ้น ลิ๊งค์ ไว้นานแล้วแต่ลืมบอกรายละเอียด จริงๆต้องอยู่ในบทความ ลิ๊งดีๆน่าติดตาม" แต่คงไม่สายนะครับต้องขอโทษด้วยครับ เริ่มกันเลยครับ ลิ๊งค์ที่ผมว่านี้ คือ





www.reurnthai.com - เรือนไทย.วิชาการ.คอม ที่ได้รับรางวัล - เว็บดีเด่นประจำปี 2549 ครับ ที่นี่ สาระแน่นปึ๊กเช่นเคยครับ อยากรู้เรื่องไทยๆ ลองแวะมาที่นี่ดูก่อน พกความสงสัยอยากรู้เข้าไปตามหมวด
               - ศิลปวัฒนธรรม        - ภาษาวรรณคดี
               - ระเบียงกวี               - ชั้นเรียนวรรณกรรม
               - หน้าต่างโลก           - ประวัติศาสตร์
               - ทันกระแส               - ห้องหนังสือ
               - ชมรมอนุลักษณ์ภาพจิตรกรรมไทย

ไปที่นี่เลยครับ www.reurnthai.com    รับรองว่าคุณได้ความรู้กลับมาอีกแน่นอน หรือใครต้องการจะ share สิ่งที่ตัวเองมีและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นในแบบไทย ก็สมัครเป็นสมาชิกไปเลยครับ ที่ผมชอบส่วนตัวคือหมวด - ชมรมอนุลักษณ์ภาพจิตรกรรมไทย- ที่นี่ใครไปเที่ยวไหนมา(วัดไทย) แล้วได้ถ่ายรูปไว้ เขาเอามา share กันในนี้ครับ บางกระทู้มีประวัติต่างๆให้เสร็จ นับเป็นการอนุรักษ์จิตรกรรมไทยไปในตัว -เยี่ยมครับ
    
        ส่วนอีก link ก็เป็นที่ที่เขาตั้งใจ เอาหนังสือธรรมะ มาแจก(ฟรี) หรือร่วมสบทบทุนพิมพ์หนังสือธรรมะ ก็ไปที่นี่นะครับ www.96rangjai.com ในเว็บเขาก็มีความรู้เกี่ยวกับทางพุทธศาสนาในเรื่องต่างๆให้คุณได้อ่านเช่นกัน

วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Raj Prasong & I

        วันก่อนผมนั่ง เช็คข้อมูลในหน้า facebook profile ของผม บังเอิญให้เห็นบทความของ Nueng Chom แห่ง BKK girl (http://bangkokgirllife.blogspot.com/ ) update  บทความของเธอมาเรื่อง การกลับมาของห้าง  Center World ทำให้ผมนึกถึงตัวเองขึ้นมาว่า ไม่ได้ตามข่าวใดๆทั้งสิ้นที่เกี่ยวข้องกับแยกนี้เลย ทั้งทาง วิทยุ-ทีวี-หนังสือพิมพ์ ตั้งแต่มีเหตุการณ์ใหญ่ที่แยกนี้เมื่อหลายเดือนก่อน จนเห็นบทความนี้ ก็นึกถามตัวเองว่าเรามีเหตุการณ์อะไรบ้างที่เราไปเกี่ยวข้องที่แยกนี้ 

         อย่างแรกก็ต้องย้อนไปโน่นเลยครับตอนเรียนจบมหาลัย ปีแรก ได้เข้าทำงานที่ บริษํทญี่ปุ่น บน ถ.สีลม วันนั้นต้องทำงานนอกสถานที่ให้บริษัท หลายอย่างครับ จนเย็น มานึกได้ว่า ลืมกล้องถ่ายรูปที่ไปถ่ายรูปสินค้า  ที่ผิดสเปกเพื่อเครมของกลับไปที่ ญี่ปุ่น มูลค่าสินค้าในกล้องก็ 7 หลัก ครับ นึกตั้งนานว่าผมไปลืมทิ้งไว้ที่ไหน ก็นึกไม่ออก นั่งเหงื่อตก หันไป หันมา เห็นพระพรหม(เอราวัณ) ท่านมองอยู่ ก็ไม่รู้ทำไงครับ ขอพรท่านซะเลย ช่วยลูกช้างด้วย ปรากฏว่า ได้ผลครับ บ่ายวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ ธ.ไทยพาณิชย์ สนง.ใหญ่(สมัยก่อนอยู่แยกวิทยุตัด ถ.เพชรบุรี) โทรมาบอกว่ามีกล้องของ บริษัทลืมไว้บน เคาเตอร์ ธนาคาร ก็เลยรอดตัวไปครับ....ได้กล้องคืนด้วยความเมตตาของท่านพระพรหมเอราวัณกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร



เรื่องที่สอง ก็ เป็นรูปพระตรีมูรติ(แยกราชประสงค์) ที่ผมทำไว้นานแล้ว เห็นว่าเริ่มพบบ่อยชึ้นทางเน็ต ไหนๆก็ไหนๆครับ download ฟรีได้เลยครับ ทั้งภาพจริงต้นฉบับที่ผมถ่ายไว้ และภาพกราฟฟิกที่ทำขึ้นใหม่ ภาพต้นฉบับให้ไว้เผื่อใครอยากตกแต่งภาพตามสไตล์ของตัวเอง ส่วนภาพที่ทำกราฟฟิกใหม่ ก็   บอก e mail มาที่ผมเลยครับหรือพิมพ์ ที่คอมเมนต์บทความนี้ก็ได้ จะส่งภาพให้สำหรับผู้ที่ ศรัทธาท่านจริง ฟรีเหมือนเดิม ใครที่ต้องการต้นฉบับก็ไปที่นี่ นะครับ  http://picasaweb.google.co.th/vinayak.vanich/Trimurati?feat=directlink




ยังมีอีกมากนะครับเกี่ยวกับเรื่องศาสนา กับ แยกราชประสงค์ ไว้จะนำบทความมาลงภายหลังให้สมกับชื่ อ

                                          Hindu Gods Interscetion In thailand